เอามาก่อน!สิงห์ไม่รอช้าเจรจาสอย ‘โอลิเซ่’ ร่วมทัพ

ไม่ต้องรอกุนซือใหม่หลังมีรายงานออกมาว่า เชลซี เดินหน้าต่อไล่ล่าตัว ไมเคิล โอลิเซ่ ของ คริสตัล พาเลซ มาร่วมทีมอีกครั้งในช่วงซัมเมอร์นี้

ตามรายงานจาก The Mirror ระบุว่า เชลซี ต้องการเซ็นสัญญากับ โอลิเซ่ สตาร์ของ คริสตัล พาเลซ มาร่วมทีมให้ได้ไม่ว่าพวกเขาจะแต่งตั้งใครเป็นผู้จัดการทีมคนใหม่ก็ตาม

โอลิเซ่ มักจตะลงเล่นในตำแหน่งปีกขวาเป็นหลัก แต่ยังสามารถขยับเข้ามาเป็นกองกลางตัวรุกได้ และสร้างความประทับใจกับ พาเลซ ในฤดูกาลนี้ โดยเขายิงได้ 10 ประตู และทำ 6 แอสซิสต์จากการลงเล่นใน พรีเมียร์ลีก 19 นัด

เชลซี อาจต้องเผชิญหน้ากับการแข่งขันจำนวนมากเพื่อแย่งตัว โอลิเซ่ โดยที่ อาร์เซนอล, แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด, นิวคาสเซิ่ล และ ลิเวอร์พูล ต่างสนใจที่จะเซ็นสัญญากับเขาเช่นกัน

ก่อนหน้านี้ โอลิเซ่ เคยอยู่ที่อะคาเดมี่ของ เชลซี ตั้งแต่ปี 2009 จนถึงปี 2016 แต่ก็ต้องรอดูกันต่อไปว่าเขาจะกลับมาที่สโมสรในวัยเด็กอีกครั้งหรือไม่

ขณะที่ทาง พาเลซ ได้จับ โอลิเซ่ ต่อสัญญาฉบับใหม่เมื่อปีที่แล้วหลังจากที่ เชลซี ยื่นข้อเสนอ 35 ล้านปอนด์ก่อนดีลในครั้งนั้นจะล่มลงไป โดยเชื่อกันว่าเงื่อนไขการปล่อยตัวของสตาร์รายนี้ในสัญญาก่อนหน้าเป็นสาเหตุที่ทำให้เรื่องราวในครั้งนั้นหาตอนจบกันไม่ได้

ดูก่อน!’อาร์เตต้า’ เผยยังไม่ตัดสินใจเรื่อง VAR ขอคุยปืนก่อน

มิเกล อาร์เตต้า นายใหญ่ของอาร์เซน่อล ยังคงสงวนท่าทีเรื่อง VAR ต่อโดยเผยเพียงแค่ว่าขอคุยกับทางสโมสรให้เรียบร้อยก่อน

สัปดาห์นี้ วูลฟ์ส เสนอให้ยกเลิกการใช้ VAR ที่พวกเขามองว่าเป็นปัญหา นั่นทำให้สโมสรในพรีเมียร์ลีกเตรียมต้องลงคะแนนเสียงว่าจะโอเคด้วยหรือไม่

อาร์เตต้า กล่าวถึงเรื่องนี้ว่า “ผมไม่ได้เป็นส่วนหนึ่งของการประชุมเหล่านั้น แต่ผมจะพบกับสโมสรในสัปดาห์หน้า”

“ถึงตอนนั้นเราจะตัดสินใจเรื่องสถานะของเราในฐานะสโมสร”

“ผมอยากทำความเข้าใจว่าเกิดอะไรขึ้นแล้วก็ได้รับความรู้สึกโดยรวมก่อนที่เราตัดสินใจ”

ไม่พลาด!’พาลเมอร์’ซิวแข้งยอดเยี่ยมแห่งปีของเชลซี

จะเป็นของใครไม่ได้นอกจาก โคล พาลเมอร์ หลังคว้า 2 รางวัลใหญ่ของสโมสร เชลซี จากฟอร์มสุดยอดของเจ้าตัวในฤดูกาลนี้

พาลเมอร์ ทำผลงานยอดเยี่ยมนับตั้งแต่ย้ายมาจาก แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ด้วยค่าตัว 42.5 ล้านปอนด์เมื่อซัมเมอร์ที่แล้ว

เขากลายเป็นกำลังสำคัญของ เมาริซิโอ ปอเช็ตติโน่ โดยทำไปได้ 26 ประตูและ 13 แอสซิสต์จากการลงสนาม 45 เกมรวมทุกรายการ

21 ประตูดังกล่าวมาจากพรีเมียร์ลีก ซึ่งมีเพียง เออร์ลิ่ง ฮาลันด์ (25 ประตู) เท่านั้นที่ยิงได้มากกว่า

ผลงานกับ “สิงห์บลูส์” ยังทำให้ พาลเมอร์ ได้รับโอกาสติดทีมชาติอังกฤษชุดใหญ่แล้วด้วย โดยลงสนามไป 2 เกมในช่วงพักเบรคที่ผ่านมา และมีลุ้นติดทัพของ แกเร็ธ เซาธ์เกต ลุยศึกยูโร 2024 ที่เยอรมนี

ล่าสุดในพิธีมอบรางวัลประจำฤดูกาลของสโมสรเมื่อคืนวันอังคารที่ผ่านมา ดาวเตะวัย 22 ปีซิว 2 รางวัลสำคัญ ประกอบด้วย นักเตะชายยอดเยี่ยมแห่งปี และ แข้งยอดเยี่ยมที่โหวตจากเพื่อนร่วมทีมอีกด้วย

นอกจากนี้ ลอเรน เจมส์ น้องสาวของ รีซ เจมส์ ได้รับรางวัลนักเตะยอดเยี่ยมแห่งปีของทีมหญิง ส่วน เจส คาร์เตอร์ ถูกโหวตจากเพื่อนร่วมทีมคว้าแข้งแห่งปี

อัลฟี่ กิลคริสต์ ที่แจ้งเกิดกับชุดใหญ่ในซีซั่นนี้ คว้านักเตะอะคาเดมี่ยอดเยี่ยม โดยมี เคธี่ ค็อกซ์ ได้รางวัลนี้จากฝั่งทีมหญิง

รางวัล PFA Community Champions ซึ่งมอบให้กับนักเตะที่ทำกิจกรรมเพื่อช่วยเหลือสังคม ถูกมอบให้กับ คอเนอร์ กัลลาเกอร์ และ เซซิร่า มูโซวิช

นอกจากนี้ในพิธีมอบรางวัลดังกล่าว เชลซี ยังได้แสดงความเคารพต่อ เอ็มม่า เฮย์ส เฮดโค้ชทีมหญิงที่จะอำลาทีมเช่นกัน หลังอยู่คุมสโมสรยาวนาน 12 ปี เพื่อไปเป็นกุนซือคนใหม่ของทีมชาติหญิงสหรัฐอเมริกา

กลับมาแล้ว!’จิ้งจอก’ การันตีเลื่อนชั้นลุยพรีเมียร์ลีกซีซั่นหน้า

ไม่ต้องรอกันนาน หลังล่าสุด เลสเตอร์ ซิตี้ ได้รับการยืนยันเลื่อนชั้นเป็นที่แน่นอนแล้วในฤดูกาลหน้าหลังคู่แข่งอย่างลีดส์ ยูไนเต็ด แพ้ ควีนส์ปาร์ค เรนเจอร์ส 4-0

“จิ้งจอกสีน้ำเงิน” ซึ่งปัจจุบันรั้งจ่าฝูงแชมเปี้ยนชิพ ต้องการชัยชนะอีกเพียงเกมเดียวจาก 2 แมตช์ที่เหลือเพื่อเลื่อนชั้นอัตโนมัติ แต่ก็มีอีกเงื่อนไขคือลุ้นให้ ลีดส์ ยูไนเต็ด แพ้ ควีนส์ปาร์ค เรนเจอร์ส

ล่าสุดเกมที่ ลอฟตัส โร้ด ซึ่งเพิ่งจบไปไม่นานปรากฏว่า ลีดส์ พ่ายแบบยับเยิน 4-0 นั่นส่งผลให้ เลสเตอร์ การันตีเลื่อนชั้นก่อนที่จะเตะกับ เปรสตัน นอร์ธ เอนด์ คืนวันจันทร์นี้ด้วยซ้ำ

อย่างไรก็ตามทีมของ เอ็นโซ่ มาเรสก้า ยังไม่การันตีแชมป์ โดยปัจจุบันมี 94 คะแนน ต้องลุ้นกับ อิปสวิช ทาวน์ ทีมอันดับ 3 ที่แข่งน้อยกว่า 1 นัด มี 89 แต้ม (ลีดส์ แข่ง 45 นัด มี 90 แต้ม)

เลสเตอร์ ดูเหมือนจะเจองานง่ายในการเลื่อนชั้นกลับไปลีกสูงสุด เพราะพวกเขานำห่าง ลีดส์ ถึง 17 แต้มเมื่อเข้าสู่ศักราชใหม่ แต่กลับหลุดฟอร์มดื้อ ๆ เมื่อแพ้ 6 จาก 10 นัดตลอดเดือนกุมภาพันธ์ถึงเมษายน

แต่ชัยชนะเหนือ เวสต์บรอมวิช อัลเบี้ยน 2-1 เมื่อวันที่ 20 เมษายน ทำให้พวกเขากลับมาขึ้นจ่าฝูงอีกครั้ง จากนั้นถล่ม เซาแธมป์ตัน 5-0 ซึ่งหมายความว่าชะตากรรมตกอยู่ในมือของพวกเขาแล้ว

‘คล็อปป์’ เฉยๆแม้ ‘ซาล่าห์’ ฟอร์มตก

เป็นเรื่องธรรมดาหลัง เจอร์เก้น คล็อปป์ นายใหญ่ ลิเวอร์พูล ยืนยันไม่วิตกกังวลต่อผลงานการทำประตูของ โมฮาเหม็ด ซาล่าห์ แม้ช่วงหลังจะปืนฝืดก็ตาม

ซาล่าห์ กดจุดโทษในเกมพบกับ อตาลันต้า เมื่อคืนวันพฤหัสบดีแต่ก็ช่วยให้ ลิเวอร์พูล คัมแบ็คกลับมาจากที่พ่ายแพ้ 3-0 ในนัดแรกไม่ได้

เขายังถูกวิจารณ์จากการพลาดจังหวะทำประตูก่อนจะโดนเปลี่ยนตัวออกในครึ่งหลัง ถึงแม้ทีมจะต้องการประตูเพิ่มก็ตาม

ถึงอย่างนั้น คล็อปป์ ไม่เป็นกังวลกับฟอร์มฝืดของ ซาล่าห์ โดยบอกว่านี่เป็นเรื่องปกติสำหรับกองหน้าที่พบกับช่วงเวลาแบบนี้

“ผมไม่ได้กังวลเป็นพิเศษหรอกนะ กองหน้าก็เป็นแบบนั้นล่ะ เราต้องผ่านช่วงนี้ไป, เขาต้องก้าวผ่านช่วงนี้ไป เขาเป็นหนึ่งในนักเตะที่มีประสบการณ์มากสุดในทีม มีเพียงเท่านั้นล่ะ” คล็อปป์ บอก

“ไม่ใช่ว่า โม ไม่เคยยิงพลาดมาก่อนในชีวิต มันเป็นส่วนหนึ่งของเกมนะ จุดโทษดูแน่นอนมาก, เป็นจุดโทษที่ยอดเยี่ยมแล้วจังหวะถัดมาที่ยิงพลาดก็โชคร้าย แต่ไม่ใช่หนแรกที่เขาพลาดโอกาสแบบนั้น ผมไม่ทำเป็นเรื่องใหญ่หรอก ไม่ได้กังวลโดยเฉพาะเลย”

อย่างไรก็ตาม คล็อปป์ ก็พูดถึงการที่ลูกทีมของเขาสร้างโอกาสได้ไม่มากพอเมื่อเจอกับ อตาลันต้า ที่ติวเกมรับกันมาดี

“เราสร้างโอกาสได้ไม่มากพอ เราต้องสร้างโอกาสให้มากกว่าที่ทำในครึ่งแรกอีกหน่อย เพราะมันชัดเจนว่าคุณต้องทำสกอร์เพื่อช่วยให้คู่แข่งหวั่นไหว”

“ถ้าคุณยิงลูกที่สองได้ก็จะกลายเป็นสถานการณ์ที่เข้มข้นเพราะหากยิงเพิ่มก็จะเป็นการต่อเวลา แต่เราไปไม่ถึงจุดนั้นและเราก็ไม่ได้ทราบว่าพอถึงตอนนั้นแล้วจะเป็นยังไง ถ้าคุณไม่คู่ควรไปถึงตรงนั้นก็โอเค”